- สำคัญ
- 0
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 30
- เครดิต
- 455
- โพสต์
- 58
- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2012-10-10
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2014-2-12
- เวลาออนไลน์
- 44 ชั่วโมง
- UID
- 701
- เครดิต
- 455
- ความเทพ
- 16
- ประสบการณ์
- 365
- ทองคำ
- 0
- โพสต์
- 58
- กระทู้
- 8
- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2012-10-10
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2014-2-12
|
ปัญหา ทีพบเจอหลังจากนั้นคือเจ้าด้วงชนิดนี้ตัวผู้ จะค่อนข้างก้าวร้าวไม่ค่อยยอมผสมพันธุ์และอาจทำร้ายตัวเมียได้ วิธีแก้ไขทีผมทำก็คือตอนที่ได้มาจับมันแยกออกจากกันก่อนซักหนึ่งอาทิตย์ โดยนำตัวผู้ไปใส่ตู้เพาะพันธุ์ทิ้งไว้ก่อนโดยจับตัวเมียแยกไว้อีกทีนึง ตัวผู้เมื่อลงไปในตู้เพาะทีแรก จะตื่นตกใจสักระยะและจะหลบอยู่ใต้ขอนไม้สังเกตุเมื่อตัวผู้เริ่มกินอาหาร แล้วค่อยปล่อยตัวเมียลงตู้ จะสามารถลดอาการตัวผู้หนีบตัวเมียตายได้ครับ
ปัญหาเรืองการผสมพันธุ์หลังจากปล่อยตัวเมียลงไปในตู้แล้วคือตัว เมียจะมุดดินหนีตลอดไม่ยอมขึ้นมาให้ตัวผู้ผสมพันธุ์ วิธีแก้ไขก็คือเราเอาผลไม้ทีสุกงอมเละๆไปวางล่อตัวเมียไว้บนพื้นตู้จับตัว ผู้ไปอยู่บนผลไม้นั้น
แล้วฉีดน้ำฝนละอองละเอียดๆลงไปในตู้ให้ชุ่ม (จากการสังเกตุในธรรมชาติเจ้าด้วงพวกนี้ชอบออกมาหลังฝนตก)จากการทดลองทำได้ ผลดีทุกคู่ครับ หลังฉีดน้ำฝนลงไปไม่นานตัวเมียก็ขึ้นมาให้ตัวผู้ผสมพันธุ์โดยดีครับ
ปัญหาที่พบตอนผสมพันธุ์ก็คือเจ้าด้วงพวกนี้เวลาผสมพันธุ์กันจะ นานกว่าสิบห้านาทีโดยประมาณและต้องการความเป็นส่วนตัวสูงมากครับส่วนใหญ่จะ ผสมกันตอนกลางคืนปราศจากสิ่งรบกวนจากการทดลองเลี้ยงสังเกตุว่า
ถ้ามีสิ่งมารบกวนตอนด้วงผสมพันธุ์กันเจ้าด้วงตัวผู้จะรีบถอน อวัยวะสืบพันธุ์ออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้อวัยวะสืบพันธุ์ของตัวเมียหลุดตามออกมาทั้งยวง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ตัวเมียบางตัวสามารถเก็บอวัยวะสืบพันธุ์กลับไปได้
ในกรณีโชคดี แต่จะได้ไข่หรือไม่นั้นไม่ยืนยันแต่ถ้าตัวเมียเก็บอวัยวะสืบพันธุ์กลับไปไม่ ได้ ก็จะอยู่ได้ไม่นานและไม่ได้ไข่เลย แนะนำทางที่ดีคอยสังเกตุมันห่างๆ อย่าไปยุ่งกับมันตอนผสมพันธุ์ดีที่สุดครับ
หลัง จากที่ตัวเมียผสมพันธุ์แล้วก็จะหาที่วางไข่ในสองถึงสามวันสังเกตุตัวเมียจะ ขุดดินขึ้นลงๆและจะขึ้นมากินอาหารมากกว่าเก่า ทางที่ดีตอนนี้ควรใช้อาหารทีเป็นผลไม้สุกงอมๆมากกว่าเยลลี่ หรือจะให้น้ำผึ้ง
กับน้ำอ้อยก็ได้การการทดลองเลี้ยงสังเกตุเจ้าตัวเมียจะปั้นวัสดุ รองพื้นเป็นก้อนกลมแล้วไข่ไว้ข้างใน สวนใหญ่จะวางไข่บริเวณใต้ขอนไม้ หรือใต้ใบไม้และบริเวณทีผลไม้สุกงอมเน่าอยู่นั้นสงสัยว่าที่ตรงนั้นจะชื้น กว่าที่อื่นๆ
ซึ่งตัวเมียตัวหนึ่งสามารถไข่ได้มากกว่า 20 ฟองเป็นอย่างน้อย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู ในขณะทีตัวเมียวางไข่ควรแยกตัวผู้ออกจากตู้เพาะพันธุ์เพราะบางทีอาจจะไปทำ ร้ายหรือรบกวนตัวเมียได้ ซึ่งตัวผู้ตัวหนึ่งสามารถ
ผสมพันธุ์ได้หลายครั้ง อาจเอาไปผสมกับตัวเมียอื่นอีกก็ได้ แต่ทางที่ดีควรจับมาแยกพักไว้สักหน่อยแล้วค่อยเอาไปผสมสำหรับตัวเมียทีวาง ไข่แล้วก็เลี้ยงดูตามปกติ แต่ควรขยันฉีดน้ำลงไปบ่อยๆ ปัญหาทีพบเจอในตอนนี้จะมีเพียง ตัวเมียบางตัวมุดดินลงไปวางไข่ได้ไม่นานก็ตาย ลองจับซากมันมาผ่าท้องดูพบว่ายังมีไข่อยู่เต็มท้องเลย
คิดว่าสถานที่วางไข่ยังไม่เหมาะสมหรือตอนตัวเมียมุดลงไปวางไข่ใน วัสดุปูพื้นทีมีดินเป็นส่วนผสมอยู่ทำให้ติดปากตัวเมียแน่นจนกินอาหารไม่ได้ แล้วจะตายในที่สุด สังเกตถ้าเห็นตัวเมียมีดินติดแน่นอยู่ในปากให้จับมาจุ่มน้ำล้างออกให้หมด หรือใช้แปรงสีฟันขัดเบาๆบริเวณปากมันเพื่อเอาดินออกให้หมดซึ่งอาจจะใช้ฟร็อก ซี่ฉีดน้ำแรงๆให้ดินหลุดออกไปก็ได้ เมื่อได้ไข่แล้วให้ปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อยซักสองสามเดือน แล้วค่อยรื้อตู้ออกมาดูหนอนครับ ซึ่งตอนทดลองเลี้ยงลองเอาไข่แยกออกจากกระเปาะมาฟักเอาเองในแก้วใส ใช้เวลาฟัก 30 วัน เทียบกับไข่ที่อยู่ในกระเปาะ30 วันลองรื้อกระเปาะออกมาดูพบว่าหนอนตัวใหญ่กว่าทีแยกออกมาฟักเอง คงจะเกิดก่อน สำหรับหนอน ตอนนี้ผมทดลองเลี้ยงในวัสดุปูพื้นอยู่ครับ และมีบางส่วนแยกออกมาเลี้ยงในเชื้อเห็ดครับ ได้ผลยังไงแล้วจะบอกอีกทีครับ
หมายเหตุ* การเพาะเลี้ยงทำได้หลายวิธี ไม่มีวิธีตายตัว เคยมีพี่คนนึงใช้ไม้ผุผสมดินเล็กน้อยยังได้หนอนด้วงคีมกวางเหลืองเลย
ที่ผมนำมาลงไว้เป็นการลองผิดลองถูกเพาะครั้งแรกที่ได้ผลลองประยุกต์ใช้กันเอาเองครับ |
-
คะแนนรวม: ความเทพ + 1
ดูบันทึกคะแนน
|