แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pun0007za เมื่อ 2013-7-29 00:39
วิธีการเพาะด้วงคีมที่วางไข่ในดินด้วงกว่าง และด้วงดอกไม้รวมถึงการดูแลตัวอ่อน
การเพาะด้วงคีมที่ไข่ในดินพวกด้วงกว่างและด้วงดอกไม้บางชนิด นั้นสามารถใช้วิธีเดียวกันได้เลยครับสำหรับตู้วางไข่สามารถใช้เป็นตู้ปลาหรือตู้พลาสติกเหมือนกับตู้ผสมพันธุ์ก็ได้ครับแต่ตู้วางไข่นี้จะขอเน้นความสูงเยอะหน่อยครับอย่างน้อยขอให้มีความสูงไม่ต่ำกว่า15เซนติเมตรครับ เรามาดูอุปกรณ์กันดีกว่าว่าต้องการอะไรบ้างนะครับ1.ตู้วางไข่ที่เน้นความสูงไม่ต่ำกว่า15เซนติเมตร2.อาหารตัวอ่อนของด้วงกว่างและวัสดุปูพื้นของด้วงกว่าง(หาซื้อได้ที่www.siambeetle.comมีหลายสูตรให้เลือกซื้อบางสูตรสามารถใช้ด้วยกันได้หรือตามเว็ปขายอุปกรณ์ด้วงทั่วไป)3.เยลลี่หรือผลไม้สุกสำหรับให้ด้วงกินเป็นอาหาร วิธีจัดตู้ง่ายๆครับ นำวัสดุปูพื้นมาผสมน้ำก่อนครับผสมให้ชื้นกำลังพอดีครับอย่าชื้นเกินไป แล้วอัดแน่นลงไปในตู้ให้สูง5เซนติเมตรโดยประมานครับต่อมานำน้ำมาผสมอาหารตัวอ่อนให้ชื้นกำลังพอดีเหมือนวัสดุปูพื้นครับแล้วใส่ลงไปเพิ่มอีก10-15เซนติเมตร(ตามรูป)โดยไม่ต้องอัดแน่นครับหลังจากนั้นก็หาเศษไม้หรือมอสขาวมาวางไว้ก็ได้ครับเพื่อกันด้วงหงายท้องและนำผลไม้สุกหรือเยลลี่วางไว้บนผิวอาหารครับ(ตามรูป)จากนั้นสามารถนำตัวเมียเข้ามาวางไข่ได้เลยประมาน1-2เดือนแล้วค่อยมารื้อตู้อีกทีครับอย่าลืมเปลี่ยนอาหารให้ทุกๆ3-4วันนะครับระหว่างด้วงวางไข่ไม่ควรยกตู้หรือขยับตู้เป็นอันขาตเพราะอาจไปรบกวนตัวเมียวางไข่ได้นอกจากจะเปลี่ยนอาหารให้เท่านั้นครับ.
ตกแต่งตามใจชอบครับ
หลังจากที่เราได้ปล่อยตัวเมียลงไปวางไข่ประมาน1-2เดือนเราก็สามารถที่จะรื้อตู้ค้นหาตัวอ่อนเพื่อแยกเลี้ยงตัวล่ะกระปุกครับเพื่อความปลอดภัยของตัวอ่อนควรจะรื้อตู้หลังจากที่ตัวเมียลงวางไข่แล้ว2เดือนขึ้นไปเท่านั้นครับ โดยปกติแล้วเราสามารถแบ่งระยะหนอนได้สามระยะครับได้แก่L1ระยะที่พึ่งออกมาจากไข่ L2ระยะที่รอกคาบต่อจากแอลหนึ่งและL3ระยะที่รอกคาบต่อจากแอลสองและเป็นระยะสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ระยะดักแด้ครับแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวอ่อนอยู่ในระยะอะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับความกว้างของหัวกะโหลกตัวอ่อนและชนิดของด้วงด้วยครับเช่นกว่างสามเขา(Chalcosoma sp.) ในระยะL1ตัวอ่อนจะมีหัวกะโหลกที่กว้าง2mmL2จะมีหัวกะโหลกที่กว้าง8mmและL3จะมีหัวกะโหลกที่กว้าง13mm เป็นต้น.ก่อนที่เราจะรื้อตู้ควรหากระปุกใส่ตัวอ่อนสำรองไว้ด้วยนะครับหนึ่งกระปุกต่อหนึ่งตัวเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงตัวอ่อนทำร้ายกันเองครับขนาดของกระปุกก็แล้วแต่ชนิดของด้วงเลยครับว่าตัวใหญ่หรือเล็ก ถ้าเป็นด้วงกว่างญี่ปุ่นหรือมูชิคิง รื้อออกมาแล้วเจอL1ควรหากระปุกขนาด200-300mlให้อยู่ครับ เจอL2ควรหากระปุกที่มีขนาดประมาน500mlครับ เจอL3ควรหากระปุกขนาด 900-1000mlขึ้นไปครับ กระปุก1000ml สามารถเลี้ยงได้จนถึงระยะเข้าดักแด้โดยไม่ต้องเปลี่ยนกระปุกอีกแต่สำหรับด้วงที่ทำรังดังแด้แนวตั้งเช่นกว่างญี่ปุ่นกระปุกควรมีความสูงไม่ต่ำกว่า 10เซนติเมตรครับ เปลี่ยนอาหารตัวอ่อน1-1.5เดือนต่อครั้งแล้วแต่ความต้องการตัวอ่อนครับ(ถ้าอุจจาระของตัวอ่อนเยอะเกินไปสามารถเปลี่ยนได้ทันทีครับ).ถ้าเป็นด้วงคีมชนิดที่มีขนาดเล็กก็สามารถเลือกใช้ประปุกที่มีขนาด 100-500mlเช่นพวกด้วงคีมร่องเก่าเป็นต้น. สำหรับชนิดที่มีขนาดใหญ่หรือปลานกลางสามารถเลือกได้ตั้งแต่200-1000mlครับเช่น ด้วงคีมซิว่าเป็นต้น.ด้วงคีมที่ชอบวางไข่ในดินจะไม่ชอบกินเชื้อเห็ดหรืออาหารที่มีการผสมไม้ผุไม้บทที่มากไป ฯลฯ ดังนั้นเวลาให้อาหารตัวอ่อนด้วงคีมกลุ่มนี้ควรใช้เป็นอาหารของกว่างหรือสูตรเฉพาะครับ.
วิธีการเพาะด้วงคีมที่ไข่ในไม้ผุและการดูแลตัวอ่อน ก่อนอื่นเราต้องมาเตรียบอุปกรณ์กันก่อนครับว่าต้องการอะไรบ้าง,1.วัสดุปูพื้นด้วงคีม2.ขอนไม้ผุสำหรับวางไข่(สามารถหาซื้อได้ที่www.siambeetle.com มีหลากหลายไซต์ให้ทุกคนได้เลือกครับ)
3.ตู้วางไข่ที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า15cm(สามารถใช้เป็นตู้ปลาหรือตู้พลาสติกตามที่กล่าวไปด้านบน) 4.เยลลี่หรือผลไม้สุกเพื่อให้ด้วงกินเป็นอาหารหลังจากที่เราเตรียบอุปกรณ์ครบแล้วเราก็มาเริ่มกันเลยครับนำไม้ผุที่เตรียบสำหรับเพาะไปแช่น้ำโดยให้ท่อนไม้ทั้งท่อนแช่อยู่ใต้น้ำ12ชั่วโมงหรือประมาน1คืน(ตามรูป)ห้ามให้ไม้ผุลอยขึ้นมาบนผิวน้ำเป็นอันขาตครับเพราะว่าไม้จะไม่สามารถดูดน้ำเข้าไปได้ไม่เต็มที่ครับ
หลังจากนั้นนำไม้ผุมาตากไว้ในที่มืดสามารถใช้ผ้าขนหนูหรือกระดาษหนังสือพิพพ์ห่อไว้ครับก่อนลงตู้เพาะสามารถนำเปลือกไม้ด้านนอกตัดออกได้ครับเพื่อจะได้เป็นการประหยัดพลังงานของตัวเมียในการวางไข่,ต่อมาผสมวัสดุปูพื้นกับน้ำให้ชื้นกำลังพอดีแล้วอัดแน่นลงไปในตู้วางไข่ 5cmครับและนำไม้ผุที่ผ่านการแช่และตากแล้วมาวางไว้ซัก1-3ท่อนครับแล้วนำวัสดุปูพื้นมากลบท่อนไม้ผุให้เหลือแค่1/3ของไม้ผุครับและตามด้วยเยลลี่หรือผลไม้สุกวางไว้เพื่อให้ด้วงกินเป็นอาหาร(ตามรูป)
หลังจากนั้นก็สามารถนำตัวเมียที่ผสมพันธุ์แล้วมาวางไข่ได้เลยครับหลังจากนั้นก็รอไปอีก2เดือนแล้วจึงจะสามารถรื้อตู้ได้พยายามหลีกเลี่ยงหรือห้ามขยับตู้วางไข่เป็นอันขาตครับเพราะอาจทำให้ตัวเมียตกใจแล้วไม่ยอมไข่ครับยกเว้นจะเปลี่ยนอาหารให้ด้วงตัวเมียทุกๆ3-4วันครับ เรามาดูการรื้อตู้วางไข่กันเถอะครับปกติแล้วด้วงคีมจะเจาะไม้ผุเป็นรูประมาน5-10mmเพื่อวางไข่(ตามรูป)
ไข่ของด้วงคีมฟันเลื่อยที่ผมเคยเพาะไว้ครับ
สำหรับคนที่ใจร้อนก็สามารถรื้อตู้ได้เลยหลังจากที่ด้วงวางไข่ประมาน1เดือนเศษครับส่วนใหญ่จะมักจะเจอตัวอ่อนL1และไข่ครับ แต่ผมแนะนำว่าดีที่สุดควรจะรอ2เดือนขึ้นไปเพื่อความปลอดภัยของตัวอ่อนเรามาเริ่มรื้อตู้กันได้ครับจะสังเกตุได้ว่าตัวเมียนั้นทำตู้ไว้ค่อนข้างรกมากๆจะเห็นเป็นรอยเจาะไม้บ้างรอยโพรงบ้างฯลฯ ,หยิบขอนไม้ผุวางไข่ขึ้นมาค่อยๆใช้มีดหรือไขควงค่อยๆแคะๆตามรอยที่ตัวเมียไข่ไว้ครับหรือจะผ่าไม้เลยก็ได้ครับ (ตามรูป) ขอขอบคุณรูปทั้งสองจากหนังสือ For theLove of RHINOCEROS and STAG BEETLE
ตัวอ่อนจากไม้ผุวางไข่ของด้วงคีม
ระหว่างหาต้องระวังเป็นพิเศษนะครับอาจไม่ระวังไปแทงตัวอ่อนอาจตายได้ยครับ. เรามาดูทางด้านตัวอ่อนของด้วงคีมกันบ้างนะครับปกติแล้วด้วงคีมที่ไข่ในไม้ผุส่วนใหญ่ตัวอ่อนจะชอบกินเชื้อเห็ดมากๆครับ สำหรับนักเพาะด้วงบางท่านอาจจะกำลังสับสนว่าจะใช้อะไรให้ตัวอ่อนด้วงคีมกินดี?เชื้อเห็ดหรือไม้ผุบท อะไรจะดีกว่ากันนะ?ผมตอบได้เลยครับว่าเชื้อเห็ดดีกว่าแน่นอนครับแต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของด้วงด้วยครับบางชนิดชอบกินเชื้อเห็ดบางชนิดก็ไม่ชอบกินเชื้อเห็ดครับถึงแม้เชื้อเห็ดจะเลี้ยงได้ตัวโตขนาดใหญ่กว่าพวกไม้ผุบทก็ตามแต่มันก็มีข้อเสียครับถ้าพื้นที่อุณภูมิที่เพาะเลี้ยงตัวอ่อนสูงกว่า30องศาหรือต่ำกว่า20องศาก็จะทำให้เชื้อเห็ดที่เลี้ยงตัวอ่อนเกิดอาการบูดหรือเสียครับ(ในรูปเป็นเชื้อที่ทิ้งไว้ในอากาศที่เย็นเกินไปครับ)
แน่นอนครับหลังจากที่เชื้อเสียแล้วตัวอ่อนก็จะตายไปด้วยเช่นกัน(ดีที่สุดควรจะอยู่ที่26องศาครับ)ดังนั้นไครที่ไม่สามารถคุมอุณภูมิได้ก็ขอให้ไปเลือกใช้ไม้ผุบทหรืออาหารตัวอ่อนที่ขายสำเร็จทั่วไปจะดีกว่าครับสำหรับขนาดกระปุกที่เลี้ยงตัวอ่อนเราจะแบ่งเป็นสองประเภทได้แก่การเลี้ยงตัวอ่อนโดยเชื้อเห็ดและการเลี้ยงตัวอ่อนโดยไม้ผุบทหรืออาหารตัวอ่อนสำเร็จครับถ้าเลี้ยงด้วยเชื้อเห็ดแน่นอนครับต้องคุมอุณภมิให้ได้ไม่เกิน30องศาครับ26ถือว่าดีที่สุดสำหรับขนาดของกระปุกเชื้อเห็ดที่เราสามารถหาซื้อได้วันนี้ก็จะมี 850cc เป็นเชื้อเห็ดนางฟ้าจากwww.siambeetle.comครับ.
รูปด่านล่างนี้เป็นรูปเชื้อเห็ดนำเข้าจากญี่ปุ่นขนาด1400cc
ปกติแล้วถ้าต้องการให้ตัวอ่อนกินเชื้อเห็ดควรให้ตัวอ่อนเข้าระยะL2ไปแล้วเท่านั้นครับเพราะถ้าเป็นระยะL1ตัวอ่อนจะมีภูมิต้านทานน้อยอาจเกิดอาการไม่ชินและตายในที่สุดครับ. ดังนั้นในขณะที่ด้วงของเรามีขนาดL1ควรจะหากระปุกที่มีขนาดประมาน200-300mlใส่ไม้ผุบทหรืออาหารสำเร็จรูปให้ด้วงอยู่กินไปก่อนจนเข้าL2ครับหลังจากนั้นก็สามารถเปลี่ยนเป็นเชื้อเห็ดขนาด650ccก็ได้ครับ รอจนกว่าด้วงจะกินเชื้อหมดประมาน70% แล้วค่อยเปลี่ยนกระปุกใหม่ สังเกตุง่ายๆว่าถ้ากระปุกเชื้อเห็ดกลายเป็นสีกาแฟประมาน70%ก็สามารถเปลี่ยนกระปุกได้แล้วครับ ถ้าเป็นตัวอ่อนเป็นเพศเมียให้ใช้เป็น650ccต่อครับแต่ถ้าเป็นตัวผู้สามารถใช้เป็นขนาด1400ccได้เลยครับเปลี่ยนกระปุกเมื่อไหรนั้นขึ้นอยู่กับตัวด้วงแล้วหละครับว่าจะกินหมดเมื่อไหรโดยเฉลี่ยแล้ว1400ccจะได้ประมาน 1.5-2 เดือนเปลี่ยนหนึ่งครั้งครับสำหรับ650ccจะอยู่ที่1-1.5 เดือนครับแล้วแต่ขนาดและชนิดของด้วงครับ.ต่อมาจะเป็นการเลี้ยงตัวอ่อนโดยการใช้ไม้ผุบทหรืออาหารตัวอ่อนด้วงคีมสำเร็จรูปครับวิธีนี้ง่ายๆคล้ายกับวิธีการเลี้ยงตัวอ่อนของพวกด้วงกว่างครับ.L1 ควรจะใช้กระปุกที่มีขนาด200-300ml,L2ควรใช้กระปุกที่มีขนาด 500-600ml,L3 ควรใช้900-1000mlขึ้นไปครับ เฉลี่ยแล้วเปลี่ยนอาหาร1-1.5เดือนต่อหนึ่งครั้งแล้วแต่ความต้องการของตัวอ่อนว่าจะกินมากน้อยแค่ไหน. เพียงแค่นี้การเพาะด้วงก็จะไม่ยากอีกต่อไปครับ.รูปภาพของกระปุกสำหรับเลี้ยงตัวอ่อนไซต์ต่างๆครับ
ควรแยกเลี้ยงหนอนกระปุกละตัวเพื่อไม่เป็นการแย่งอาหารและหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในภาพนี้เป็นตัวอ่อนของด้วงดอกไม้โปลิเฟมัส(Mecynorhina polyphemus)ระยะL3ทั้งหมดครับ
ใส่อาหารให้เรียบร้อยครับ
รูปตัวอ่อนด้วงคีมฟันเลื่อยธรรมดาในระยะL3
รูปด่านล่างจะเป็นอุปกรณ์เลี้ยงด้วงต่างๆครับได้แก่อาหารด้วงคีมสำเร็จรูปจากWilly Bugs(ร้านขายอุปกรณ์ด้วงชื่อดังจากประเทศจีน)เชื้อเห็ดสำหรับตัวอ่อน กระปุกสำหรับใส่ตัวอ่อนและเยลลี่สำหรับตัวเต็มวัยนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยพี่หนุ่ม(FB:Esan Insect)
|