- สำคัญ
- 0
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 200
- เครดิต
- 8072
- โพสต์
- 1877
- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2012-1-16
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2017-1-28
- เวลาออนไลน์
- 1477 ชั่วโมง
- UID
- 1
- เครดิต
- 8072
- ความเทพ
- 766
- ประสบการณ์
- 4261
- ทองคำ
- 201
- โพสต์
- 1877
- กระทู้
- 197
- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2012-1-16
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2017-1-28
|
บันทึกการเลี้ยงด้วงคีมกระทิงดำ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dorcus antaeus
มีถิ่นกำเนิดอยู่ในโซนเอเซีย ตั้งแต่ มาเลเซีย ไทย ลาว กัมพูชา เวียตนาม พม่า จีน อินเดีย ภูฐาน
จะบอกว่าเป็นด้วงยอดนิยมในช่วง 20 ปีที่แล้วก็ว่าได้
กระทิงดำของไทยเคยได้รับความนิยมอันดับหนึ่ง เพราะการหากระทิงดำจากอินเดีย พม่า และมาเลย์ (ซึ่งสวยและใหญ่กว่า) ยังเป็นเรื่องยาก
มีคนเล่าให้ฟังว่าช่วงแรกที่ด้วงญี่ปุ่นบูมนั้น กระทิงดำของไทยส่งออกสูงถึง 1000 คู่/ปี สนนราคาแข่งกันที่ 3,000-10,000 บาทตามขนาด
รวมๆน่าจะมีด้วงชนิดนี้ไปญี่ปุ่นไม่ต่ำกว่า 10,000คู่แล้ว
มาถึงบันทึกฉบับนี้
ผมเพาะกระทิงดำมา 3-4 ปีเห็นจะได้
ด้วงคุ้นเคยของไทยตัวนี้ที่สามารถใหญ่ได้ถึง 85มม. ในราคาเกือบหมื่นบาท
ความสวยงามจัดว่าเข้าขั้น ถ้าได้ด้วงขนาดใหญ่หรือฟอร์มครบนะ
ในปีแรกๆกว่าจะได้ไข่มาซักฟองต้องบอกว่ายากมาก ลองแถบทุกวิธี ไม่ว่าจะตามที่ญี่ปุ่นแนะนำหรือตามหนังสือบอกไว้
กว่าจะพบวิธีหรือชนิดของวัสดุที่ถูกต้องก็กินเวลาไปนานทีเดียว
ด้วงคีมกระทิงดำไข่ได้ 2 แบบ ในขอนไม้ผุและในวัสดุรองพื้น
ต้องใช้ขอนนิ่มเท่านั้น สำหรับวัสดุรองพื้นแนะนำให้ใช้ Lmat pro หรือ ELmat เท่านั้น
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากขั้นตอนวางไข่ผ่านไป
มันเข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้หนอนออกมาใหญ่ที่สุด
ประเด็นที่สำคัญในช่วงนี้มีหลายปัจจัย
1.อุณหภูมิ ต้องเย็น เย็น และเย็น - เป็นประเด็นที่ยากที่สุดในบ้านเรา กับอากาศเมืองร้อนแบบนี้ แต่ไฟฟ้ามี แอร์มี ลุยได้!
อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 15-24 องศา ตามหนังสือว่าไว้
2.อาหารต้องใช่ สารอาหารต้องครบ ลองสูตรอาหารมันทุกสูตรที่มีคนบอกมานั่นแหละครับ กว่าจะรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่สูตรนึงกินเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพราะต้องลองให้หนอนทานจนออกมาเป็นตัวจริงๆ แต่ก็ลุยเหมือนกัน หนอนมีป้อนไม่อั้น
อาหารที่เหมาะสมที่สุดคือเชื้อเห็ดนางฟ้า และเชื้อเห็ดนางฟ้าดำ เห็ดอื่นลองได้ แต่ไม่ใช่แน่นอน
3.ลักษณะเนื้อไม้ เนื้อไม้ที่ไม่ใช่มันคือไม่ใช่ เพราะถ้าเนื้อไม้นั้นหนอนไม่ทาน ต่อให้อาหารครบ หนอนก็สามารถตายในกระปุกนั้นได้ครับ
ไม้ที่ดีที่สุดคือขี้เลื่อยไม้ก่อหรือต้นโอ๊ค แต่มันเป็นไม้สงวน ของรองลงมาคือไม้ทะโล้ ใช้แทนได้
4.ความมืด เงียบ สงบ - ปัจจัยที่ยากที่สุดสำหรับนักเพาะรุ่นจิ๋ว เพราะความอยากรู้อยากเห็นนั่นเอง ต้องท่องไว้ในใจว่า อยากได้ตัวใหญ่ ต้องอดทนรอ
พื้นที่ที่ดีที่สุด ต้องมืดสนิท ไม่มีแรงสั่นสะเทือน วางไว้ในที่ไม่มีคนเดินผ่านเลย
5.ขนาดบรรจุของกระปุก - สรุปได้เลยว่า 1500-2500cc. คือขนาดที่ถูกต้องสำหรับตัวผู้แล้ว เล็กกว่านี้อาหารไม่พอ เปลี่ยนกระปุกบ่อย รบกวนหนอนบ่อยด้วย
กระทิงดำตัวนี้คือตัวที่ใหญ่ที่สุดที่เพาะได้ในปัจจุบัน ขนาด 56มม.
ข้อมูลเบื้องต้น
ก.ค. 54 เริ่มเพาะ [WDxWD]
ส.ค. 54 ได้ไข่
ก.ย. 54 หนอนระยะ 1 เลี้ยงกระปุก 600cc.
ต.ค. 54 หนอนระยะ 2 เลี้ยงกระปุก 600cc
ธ.ค. 55 หนอนระยะ 3 เลี้ยงกระปุกเห็ด 1500cc
มี.ค. 55 เปลี่ยนอาหาร
มิ.ย. 55 เปลี่ยนอาหาร
ก.ย. 55 เปลี่ยนอาหาร น้ำหนัก 19 กรัม
พ.ย. 55 ทำโพรง
ธ.ค. 55 ออกจากดักแด้
ตัวนี้เลี้ยงพร้อมกัน แต่ว่าไม่ได้เปลี่ยนอาหาร จนเชื้อเห็ดย่อยกลายเป็นสีดำ
ขนาดที่ได้เลยเล็กกว่ามาก
น่าดีใจ ถ้าให้บอกว่าด้วงกระทิงตัวใหญ่ 2 ชนิดยอดนิยมอยู่ในบ้านเราทั้ง 2 ชนิดเลย
นั่นคือด้วงคีมเคอร์วิเดนส์และด้วงคีีมกระทิงดำ
แต่น่าเสียใจ ที่การเพาะให้ได้ขนาดเท่าตัวจากธรรมชาติในเมืองไทยยังไม่เคยเกิดขึ้น
เป็นเหมือนด่านใหญ่ที่ยังไม่มีใครผ่านไปได้
สำหรับนักเพาะที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว จงรวบรวมสมัครพรรคพวกและเหล่าจอมยุทธนักเพาะทั่วหล้า
มาทำลายกำแพงที่ขวางอยู่นี้เถอะ
****เป้าหมายแรกที่ต้องทำให้ได้
ด้วงคีมกระทิงดำ 70มม.
ด้วงคีมเคอร์วิเดนส์ 65มม.
|
-
คะแนนรวม: ความเทพ + 15
ดูบันทึกคะแนน
|